เป็นการ Swab (เก็บตัวอย่างเชื้อบริเวณลำคอ และหลังโพรงจมูก)ตรวจทดสอบเพื่อหาเชื้อเบื้องต้น สามารถตรวจได้สะดวกและทราบผลได้รวดเร็ว ผู้ตรวจสามารถรอผลตรวจได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง (ระยะเวลาอาจเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ใช้บริการตามสถานพยาบาลนั้นๆ) การตรวจแบบ Rapid Antigen Test เพื่อให้ผู้ติดเชื้อรู้ตัวและเข้าสู่กระบวนการกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ อย่างไรก็ตามยังคงเป็นเพียงการตรวจเบื้องต้น ควรตรวจด้วยวิธี RT-PCR ร่วมด้วยเพื่อความแม่นยำหากมีผลเป็นบวก หรือมีอาการ ต้องเลือกตรวจ Rapid Antigen Test กับสถานที่ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วเท่านั้น และชุดตรวจต้องผ่านมาตรฐานขึ้นทะเบียนกับทาง อย.
2. การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย RT-PCR
การตรวจ RT-PCR (Polymerase chain reaction) เป็นการ Swab เก็บตัวอย่างเชื้อบริเวณลำคอ และหลังโพรงจมูก (เช่นเดียวกันกับตรวจ Antigen) แต่จะทราบผลใน 2-3 วัน เนื่องจากต้องมีการวัดผลผ่านห้องปฏิบัติการ ถือเป็นการตรวจที่มีความถูกต้องแม่นยำมากกว่า แต่จะใช้เวลาในการวินิจฉัยตัวอย่างเชื้อนานกว่า และเป็นการตรวจที่แนะนำจาก WHO เนื่องจากสามารถตรวจหาเชื้อในปริมาณน้อยได้
สรุป RT-PCR และRapid Antigen Test แตกต่างกันอย่างไร
1. สำหรับ Rapid Antigen Test เป็นการตรวจที่สะดวกและใช้ระยะเวลาน้อยกว่าในการวินิจฉัย เป็นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในระดับเบื้องต้น หากผลออกมาเป็นบวก (พบเชื้อโควิด-19) ต้องตรวจ RT-PCR เพื่อยืนยันอีกครั้ง
หากตรวจเจอการรับมือกับโควิด - 19 ในสถานการณ์แบบนี้คือ การทำ Home Isolation
Home Isolation แนวทางปฏิบัติเมื่ออยู่ในสภาวะการแพร่เชื้อรุนแรงจนเตียงไม่เพียงพอต่อการรักษา ทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่ค่อยมีอาการสามารถพักรักษาตัวที่บ้าน หรือสถานที่เฉพาะที่ถูกจัดไว้ให้แทนการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยจะได้รับความช่วยเหลือและการติดตามอาการจากแพทย์อยู่เสมอ โดยปกติแล้วผู้ที่ทำ Home Isolation ได้จะต้องมีเกณฑ์ ดังนี้
1.ผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวแล้ว : สำหรับผู้ที่รักษาตัวประมาณ 7-10 วันในโรงพยาบาล และแพทย์วินิจฉัยว่าสามารถรักษาตัวต่อที่บ้านได้
2. ผู้ป่วยวิด-19 ที่กำลังรอเตียง : สามารถทำ Home Isolation ได้หากผ่านการวินิจฉัยจากแพทย์ตามความเหมาะสม หรือผู้ป่วยสีเขียว คือมีอาการไข้ ไอเจ็บคอมีน้ำมูก ไม่ได้กลิ่น ไม่รับรส มีผื่น และถ่ายเหลว แต่ไม่มีอาการหายใจเร็วหายใจลำบาก ปอดไม่อักเสบ และระดับออกซิเจนไม่ต่ำกว่า 96%
คุณสมบัติของผู้ที่สามารถ Home Isolation ได้
เป็นผู้ป่วย Home Isolation ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
1. กักตัวอยู่ในพื้นที่ห้ามออกจากที่พัก และห้ามให้ผู้อื่นเข้าเยี่ยม
การทำ Home Isolation ยังต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นนอกจากเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัย ได้แก่ ถุงสำหรับขยะฆ่าเชื้อ ทิชชูทั้งชนิดแห้งและเปียก น้ำยาฟอกขาวทำความสะอาด และยารักษาโรคที่ทานเป็นประจำ
การลงทะเบียนติดตามอาการ Home Isolation หากมีบัตรทองสามารถลงทะเบียนได้ผ่านสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 หากมีสิทธิ์ประกันสังคมโทร 1506 กด 6 กรณีต้องการกลับภูมิลำเนาเพื่อรักษาตัวโทร 1330 กด 15
การทำ Home Isolation แต่ไม่ได้รับการติดต่อสังเกตอาการควรทำอย่างไร
1. กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนที่ https://crmsup.nhso.go.th/ หรือแอดไลน์ @nhso และกดลงทะเบียนในระบบดูแลที่บ้าน Home Isolation และรอเจ้าหน้าที่ยืนยันข้อมูล
2. เมื่อได้รับการยืนยันแล้วจะได้รับข้อมูล ได้แก่ Video Call ประเมินอาการ 2 ครั้งต่อวัน / อาหาร 3 มื้อ / ยาพื้นฐานและยาฟ้าทะลายโจร / เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว / ปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล / การประสานงานรับการรักษากรณีอาการหนักขึ้น
ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะสำหรับความรู้ดีๆที่เรานำมาแบ่งปันให้ลูกค้าทุกท่าน เราขอเป็นอีกหนึ่งช่องทางทีมาแบ่งปันความรู้ดีๆให้กับลูกค้าของเรา ขอให้ลูกค้าทุกคนปลอดภัย ป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด แล้วเราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันค่ะ
ขอบคุณที่มา : https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/where-covid-19-test-RT-PCR-and-Rapid-Antigen-Test